เมื่อโลกของเราก้าวเข้าสู่ยุคอินเทอร์เน็ต ช่องทางการตลาดหรือการทำธุรกิจก็เปิดกว้างยิ่งกว่าเดิม เทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทในสังคมมากขึ้นจนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการติดต่อสื่อสาร ค้นหาที่กิน ที่เที่ยว ไปจนถึงการช้อปปิ้งผ่านแอปพลิเคชั่นและร้านค้าออนไลน์ ส่งผลให้การทำ ‘เว็บไซต์ขายของ’ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของการทำ E-Commerce กลายมาเป็นช่องทางในการทำธุรกิจของพ่อค้าแม่ค้ายุคใหม่นั่นเองครับ
เพราะอะไรเราจึงต้องเริ่มทำเว็บไซต์ E-Commerce?
เจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของแบรนด์หลายคนที่เริ่มหันมาสนใจการตลาดออนไลน์อาจมองว่า การขายผ่านเพจเฟซบุ๊คคือช่องทางที่สะดวก รวดเร็ว และง่ายที่สุด แต่หากเราลองมองในอีกมุมว่า ถ้าวันหนึ่งเฟซบุ๊คปิดตัวลงล่ะ ร้านของเราจะเป็นอย่างไร หรือถ้าเรามีคอนเทนท์ดีๆ สาระความรู้แน่นๆ การโพสท์ลงเฟซบุ๊คก็อาจอยู่บนหน้าฟีดได้ชั่วคราว เพราะไม่นานโพสคุณภาพนั้นก็จะถูกโพสอื่นๆ ที่เป็นปัจจุบันกว่ามาแทนที่
เพราะความไม่แน่นอนนี่เองครับ ที่ทำให้เจ้าของธุรกิจบางคนไหวตัวทัน และเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการทำเว็บไซต์ขายของ หรือเว็บไซต์ E-commerce กันมากขึ้น เพราะเราสามารถบริหารจัดการข้อมูลบนหน้าเว็บได้ด้วยตัวเอง สามารถแบ็คอัพหรือทำการสำรองข้อมูลไว้ได้เป็นระยะ เมื่อเกิดปัญหาอะไรก็ตาม ก็หมดห่วงว่าหน้าเว็บไซต์ขายของของเราจะหายไป ที่สำคัญการมีเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ของตัวเองยังสามารถทำการตลาดหรือการโปรโมทควบคู่ไปกับโซเชียลมีเดียอื่นๆ ได้ด้วย
3 เทคนิคสร้างธุรกิจออนไลน์ให้มั่นคงด้วย ‘เว็บไซต์ขายของ’ E-Commerce
1. เว็บไซต์เรียบง่าย ภาพประกอบสวยคมชัด
หน้าตาของเว็บไซต์ก็เปรียบได้กับหน้าร้านของเรา ยิ่งทำเว็บได้มีสไตล์เหมาะสมกับแบรนด์ มีกราฟิกและรูปภาพประกอบสวยคมชัด พร้อมรูปสินค้าที่ชัดเจนทุกมุมเพื่อให้ลูกค้าได้เห็นรายละเอียดของสินค้าแต่ละชิ้น ก็ยิ่งช่วยสร้างความประทับใจและความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การเพิ่มเติมรายละเอียดสำคัญบนหน้าเว็บให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นชื่อแบรนด์ สโลแกน ข้อมูลแบรนด์หรือข้อมูลสินค้า ไปจนถึงช่องทางการติดต่อ ก็จะเป็นตัวช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของเรามากยิ่งขึ้น
2. ความสะดวกและใช้งานง่ายต้องมาก่อน
ความสะดวกและใช้งานง่ายคืออีกหัวใจสำคัญของการทำเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ อย่าลืมนะครับว่าการที่จะโน้มน้าวให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์กด “สั่งซื้อ” ได้นั้น เราต้องทำช่องทางต่างๆ ให้สะดวกไว้ก่อน เช่น ปุ่มสั่งซื้อสีสันสดใสที่สามารถมองเห็นชัดเจน ปุ่มสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่คลิกง่าย แสดงราคาสินค้าให้เด่นชัด ไปจนถึงช่องทางการชำระเงินที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้บางคนอาจเพิ่มเติมวิธีการสั่งซื้อและวิธีชำระเงินเข้ามาบนเว็บเพื่อให้ลูกค้าที่ไม่เชี่ยวชาญการซื้อของออนไลน์สามารถเข้าใจกระบวนการสั่งซื้อและชำระเงินได้ง่ายขึ้น ขอบอกเลยว่าความง่ายและความสะดวกคือคำตอบของการเพิ่มยอดสั่งซื้อบนเว็บไซต์ขายของครับ
3. ทำความรู้จักกับ SEO เบื้องต้น
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่อยากก้าวเข้าสู่โลกของการตลาดออนไลน์ควรศึกษาการทำ SEO เบื้องต้นควบคู่กับการทำเว็บไซต์ไปด้วยจะดีที่สุด เพราะ SEO เปรียบเสมือนตัวช่วยที่จะทำให้ลูกค้ามากมายบนโลกอินเทอร์เน็ตค้นหาร้านของคุณเจอ อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้ร้านของเราสามารถฝ่าฟันกับคู่แข่งที่เปิดร้านค้าออนไลน์ประเภทเดียวกันได้ เพราะลูกค้าจะสามารถหาร้านออนไลน์ของเราเจอได้ง่ายกว่าหากเรามีการทำ SEO ที่ดีจนสามารถติดอันดับการค้นหาหน้าแรกของ Google ได้ SEO จึงเป็นเหมือนการช่วยดันเว็บไซต์ให้เป็นที่รู้จักและเพิ่มโอกาสที่จะมีคนเข้าชมเว็บ E-commerce ของเรามากขึ้นนั่นเองครับ
เพราะโลกที่เปลี่ยนไปพ่อค้าแม่ค้ายุคใหม่จึงต้องเริ่มตามให้ทันเทคโนโลยียุค 4.0 เพราะการปรับตัวและก้าวเข้าสู่โลกของการตลาดออนไลน์อย่างมืออาชีพนั้น ต้องเริ่มจากการมองมุมใหม่และเริ่มต้นสร้างหน้าเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่เราสามารถควบคุมได้เองแบบมั่นใจ ไม่ต้องกลัวว่าวันหนึ่งข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ตของเราจะหายไป รวมถึงรองรับช่องทางการขายใหม่ๆ บนโลกอินเทอร์เน็ตที่คุณสามารถสร้างธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคงครับ
สนใจทำเว็บไซต์ขายของคลิกดูรายละเอียดได้ที่ : fullfueldesign.com