ทำไมต้องทำเว็บไซต์ ? เว็บไซต์มีประโยชน์อย่างไร ? คือประโยคคำถามยอดฮิตที่หลายคนถามถึงตลอดการทำงานของเราในบทความนี้ผมเลยจะมาอธิบายให้ผู้ที่กำลังสงสัยอยู่เหมือนกันได้ทราบและเข้าใจประโยชน์ของเว็บไซต์มากขึ้น หากคุณพร้อมแล้วไม่ต้องหยิบกระดาษปากกามาจดเพียงแค่หากาแฟชาหรือเครื่องดื่มที่คุณชอบมาดื่มพร้อมกับอ่านบทความนี้ไปด้วยแบบเพลินๆก็พอ
เว็บไซต์คืออะไร ?
หากคุณเคยค้นหาแล้วว่าเว็บไซต์คืออะไรคุณจะเจอแต่ข้อมูลที่เป็นศัพท์ทางเทคนิคเยอะแยะมากมายผมอยากให้คุณลืมสิ่งเหล่านั้นไปก่อนแล้วผมจะเล่าให้คุณฟังใหม่
เอาแบบเข้าใจง่ายๆเลย เว็บไซต์คือหน้าที่แสดงข้อมูลอะไรก็ตามที่คุณอยากให้คนอื่นเห็นบนโลกออนไลน์ ภายใต้ชื่อโดเมน (Domain) ที่คุณกำหนด อย่างเช่น fullfueldesign.com หรือ www.fullfueldesign.com โดยต้องเข้าผ่านเว็บบราวเซอร์อย่าง Google Chrome , Firefox หรือ Safari หรืออื่นๆ แน่นอนว่าคุณต้องรู้จักรู้แล้ว หรือถ้ายังไม่เคยเห็นอีก แล้ว facebook.com ล่ะ? นั่นไง!!! เห็นมั้ยว่าคุณรู้จัก เอาเป็นว่าแค่รู้เท่านี้ก็สามารถไปต่อได้แล้ว
พัฒนาการของเว็บไซต์
หากย้อนเวลากลับไป เว็บไซต์เป็นแค่หน้าเว็บที่มีไว้เพื่อแสดงข้อมูลเท่านั้น หรือที่เรียกว่า One Way Communication คือการสื่อสารทางเดียว แต่พอยุคสมัยผ่านมาเรื่อยๆ มีการพัฒนาเป็นแบบ Two Way Communication นั่นก็คือการที่ผู้ใช้สามารถส่งข้อมูลกลับไปได้ด้วย อย่างเช่น Facebook นั่นแหละที่คุณไม่ได้แค่เข้าไปเพื่อดูอย่างเดียวแต่คุณยังสามารถโพสท์คอมเมนท์กดไลค์กดแชร์กดห่วงใยกดรักนะจุ๊บๆได้อีกด้วย
และพอมาถึงในยุคปัจจุบันนี้เว็บไซต์ไม่ได้มีไว้แค่เพียงแสดงข้อมูลหรือการโต้ตอบกับผู้ใช้เท่านั้น แต่ต้องเรียกได้ว่าเว็บไซต์เป็นเครื่องมือที่สุดแสนจะทรงพลังมากๆ ในการทำการตลาดออนไลน์เลยทีเดียว
เว็บไซต์คือสิ่งที่คนทำธุรกิจต้องมี
ถ้าพูดเชิงเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆคือ การมีเว็บไซต์ก็เหมือนมีร้านเป็นของตัวเอง ที่คุณสามารถจัดการภายในร้านได้หมดทุกอย่าง ไม่เหมือนกับ Social Media อย่างเช่น Facebook Page หรืออื่นๆ ที่เหมือนแค่นำสินค้าของคุณไปฝากขายเท่านั้น ซึ่งคุณไม่สามารถจัดการอะไรได้เลย หากเจ้าของร้านออกกฎหรือเพิ่มค่าคอมมิสชั่น คุณก็ต้องยอม ไม่มีสิทธิ์ต่อรองอะไรทั้งสิ้น
คุณคิดว่าแบบไหนดีกว่ากัน? แน่นอนว่าหลายคนก็ต้องบอกว่ามีร้านเป็นของตัวเองย่อมดีกว่าอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือจะมีร้านก็ต้องใช้เงินมากกว่าสิ ใช่เลยครับถ้าเปรียบเทียบเป็นร้านจริงๆมันก็ต้องใช้เงินมากกว่าการฝากขายแน่นอน แต่การมีเว็บไซต์จะมีความแตกต่างตรงที่ ค่าเช่าพื้นที่ (Hosting) ส่วนมากไม่ว่าเว็บไซต์บริษัทเล็กหรือบริษัทใหญ่หากขนาดของเว็บไซต์เท่ากันค่าเช่าก็จะพอๆกันด้วยเว้นแต่หากอยากให้รองรับคนเข้าพร้อมกันได้มากกว่าหรือความเร็วของเว็บไซต์มากกว่าก็อาจจะต้องจ่ายแพงกว่าเท่านั้น แต่ส่วนที่แตกต่างจริงๆคือค่าใช้จ่ายในการทำเว็บไซต์ ที่คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการทำด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องเสียเงินสักบาทแต่ถ้าคุณอยากจะจ้างมืออาชีพอย่างบริษัททำเว็บไซต์หรือเอเจนซี่ทำให้ที่ค่าใช้จ่ายอาจจะมีตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้านก็ขึ้นอยู่กับคุณจะให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ขนาดไหน
แต่ไม่ว่าคุณจะทำเอง ให้คนอื่นทำ หรือให้พวกเราชาว FULLFUEL ทำให้ คุณจะต้องรู้ก่อนว่า ทำไมต้องทำเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไร ผมจะอธิบายถึงความสำคัญบางส่วนให้คุณฟังครับ
ทำไมธุรกิจของคุณต้องมีเว็บไซต์
1.ให้ลูกค้าของคุณค้นหาเจอบนโลกออนไลน์
การที่ธุรกิจของถูกค้นหาเจอใน Search Engine อย่าง Google ถือเป็นช่องทางที่สำคัญที่สุดเลย เพราะคนที่เข้ามานั่นแหละคือลูกค้าล้วนๆ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ ? สมมติว่าคุณทำเว็บไซต์ร้านของคุณที่ขายรถจักรยานอยู่ แล้ววันหนึ่งมีคนเข้าเว็บไซต์ของคุณจากการค้นหาใน Google ว่า “จักรยาน ยี่ห้อไหนดี” คุณคิดว่าเขากำลังค้นหาด้วยประโยคแบบนี้เพราะอะไรกัน ? ก็เพราะเขากำลังสนใจในสิ่งนั้นอยู่น่ะสิ ดังนั้นคุณก็แค่ทำเว็บไซต์ให้น่าสนใจให้น่าดึงดูดพอเพื่อปิดการขายก็เท่านั้น คุณอาจจะมีคำถามต่อว่า แล้วถ้าใช้แค่ Facebook Page คนจะค้นหาไม่ได้เลยหรอ ? คือเอาจริงๆมันก็ใช้ได้เหมือนกันครับ แต่คุณลองคิดดูดีๆว่า พวกเราใช้ Facebook หรือ Instagram กันทำไม ? เพราะเราใช้เพื่อพูดคุย แอบส่องคนอื่นๆ หรือเสพความบันเทิงต่างๆ ก็เท่านั้น แต่เราไม่ได้ใช้ค้นหาของที่เราอยากได้ จริงไหมครับ ?
แต่ถ้าคุณจะโพสท์ขายของ มันก็เหมือนคุณต้องพยายามหาสินค้าใหม่ๆ แล้วนำไปผ่านคนเยอะๆ เพื่อหวังว่าจะมีใครสักคนที่อยากได้ของๆคุณ ทำแบบนั้นได้ลูกค้าแน่ครับ แต่แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว จะดีกว่ามั้ยถ้าตั้งร้านไว้เฉยๆ รอคนที่อยากได้จริงๆ เดินเข้ามาซื้อของๆคุณเองดีกว่า
2.สร้างความน่าเชื่อถือ
ผมขอถามคำถามง่ายๆว่า ถ้าคุณต้องซื้อเครื่องจักรราคา 1 ล้านบาท คุณจะเลือกซื้อจากร้านไหน ระหว่างร้านที่ขายบน Facebook ที่มียอดไลค์ ยอดแชร์เยอะๆ กับ เว็บไซต์ที่ระบุข้อมูลบริษัทชัดเจน มีการรับรองด้วยทะเบียนพาณิชย์ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ? นี่ผมไม่ได้หว่านล้อมคุณนะ เพราะในความเป็นจริงลูกค้าจะตัดสินกันแบบนี้แหละ ในยุคสมัยนี้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูล หรือศึกษาด้วยตัวเองได้ง่ายขึ้น ดังนั้นลูกค้ามักจะเลือกจากคุณภาพของสินค้า และความน่าเชื่อถือ มากกว่าราคาที่ลดแข่งขันกันอย่างบ้าระห่ำ
ผมไม่ได้บอกว่าร้านที่ไม่มีเว็บไซต์จะขาดความน่าเชื่อถือเลยนะ แต่ถ้าธุรกิจของคุณมี และคู่แข่งไม่มี คุณก็ย่อมได้เปรียบกว่าจริงไหมครับ ?
3.เป็นเจ้าของทรัพย์สินดิจิทัลที่แท้จริง
ทรัพย์สินอย่างบ้านอาคารหรือโรงงานอะไรคือสิ่งที่บ่งบอกว่าคุณเป็นเจ้าของที่แห่งนั้นอย่างแท้จริง ? ถูกแล้วครับก็คือทุกอย่างเลยใช่ไหมครับ ทุกคนรู้หมดว่าการมีบ้านเป็นของตัวเองอุ่นใจกว่าการไปเช่าเขาอยู่อย่างน้อยก็ไม่มีใครมาไล่มาออกกฎระเบียบคำสั่งห้ามอย่างนั้นอย่างนี้แต่กลับกันพอเป็นการคิดจะเปิดธุรกิจบนโลกออนไลน์ดันรู้สึกสบายใจกับการไปอาศัยอยู่บนพื้นที่แพลตฟอร์มของคนอื่นซะอย่างนั้น ลองคิดดูนะครับว่าถ้าอยู่ๆวันหนึ่งเกิดมีแพลตฟอร์มใหม่เกิดขึ้นมาอีก คนก็แห่กันไปเล่นอันนั้นหมด แล้วเพจ Facebook ของคุณที่มียอดไลค์เพจ 1 ล้านไลค์ที่สร้างมาตั้งนานอันนี้ยังมีค่าอยู่ไหม? ไม่เลยครับ คุณจะต้องเริ่มสร้างตัวตนบนแพลตฟอร์มใหม่ตั้งแต่ต้น ต้องศึกษาธรรมชาติของผู้ใช้งาน และวางกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่อีก อย่าคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นไปไม่ได้นะครับ ในยุค 4.0 นี้มีเทคโนโลยีเกิดขึ้นใหม่ทุกๆวัน และผู้ใช้อย่างเราๆก็พร้อมใช้งานแพลตฟอร์มใหม่ๆอยู่เสมอ หากมีอะไรที่ดีกว่า เราก็สามารถเปลี่ยนใจไปใช้ได้ง่ายๆเลย แบบว่า สนใจ–ดาวน์โหลด–เบื่อ–ลบทิ้ง
แต่ถ้าคุณมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง อย่าว่าแต่สิบปีเลยครับ เป็นร้อยปีก็ยังเป็นของคุณ ตราบเท่าที่คุณยังต่ออายุโดเมนกับโฮสติ้งอยู่ และที่สำคัญยิ่งอยู่นาน ยิ่งเก๋า ยิ่งมีอิทธิพล อาจจะทำให้ลูกค้าค้นหาธุรกิจของคุณเจอเป็นอันดับแรกๆเลยด้วยซ้ำ
4.ช่วยขายของให้คุณได้ตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืน
คุณเคยเบื่อกับการตอบข้อความ Inbox ไหม? ถ้าในหนึ่งวันคุณตอบแค่ไม่กี่ข้อความก็คงเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกเบื่ออะไร แต่ถ้าเกิน 100 ข้อความต่อวันล่ะ คุณยังไหวอยู่หรือเปล่าครับ? และที่สำคัญส่วนมากข้อความเหล่านั้นไม่ใช่การซื้อด้วยนะ แค่ทักมาถามเฉยๆ คุณก็ต้องมานั่งตอบทุกคนอีก แล้วสุดท้ายไม่ซื้อ คุณต้องรู้สึกหงุดหงิดบ้างล่ะ ดังนั้นพ่อค้า–แม่ค้าหลายรายจึงต้องหาจ้างพนักงานมาช่วยตอบ Inbox เพิ่มไงครับ
มันจะดีกว่าไหมถ้าคุณทำเว็บไซต์ที่มีระบบตะกร้าสินค้าพร้อมระบบชำระเงินแบบเสร็จสรรพโดยคุณมีหน้าที่แค่รับเงินกับส่งของเท่านั้นที่สำคัญคือคุณสามารถเปิดร้านได้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ต้องกลัวที่จะเสียลูกค้าขณะที่คุณกำลังนอนหลับพักผ่อนใดๆสักคนเลย
5.เป็นฐานบัญชาการหลักของการทำการตลาด
ที่ผมเปรียบเทียบแบบนี้เพราะเว็บไซต์สามารถเก็บข้อมูลผู้ใช้ได้แทบจะทุกอย่างคุณสามารถรู้ได้ว่าคนที่เข้าเว็บไซต์ของคุณเข้ามาจากที่ไหนเว็บอะไรค้นหามาด้วยคำว่าอะไรใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เข้าผู้ใช้อายุเท่าไหร่เพศอะไรมีการศึกษาระดับไหนหรือสถานะการเงินของครอบครัวเป็นอย่างไรก็สามารถรู้ได้หมด เมื่อคุณเก็บข้อมูลของลูกค้าได้มากขึ้นคุณจึงสามารถวิเคราะห์เพื่อปรับวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณได้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆลูกค้าของคุณก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างมั่นคงอีกด้วย
และไม่ใช่แค่เก็บข้อมูลจากการค้นหาผ่าน Google เท่านั้น แต่ยังสามารถเชื่อมต่อกับแพล็ตฟอร์มต่างๆอย่าง Facebook , Email และอื่นๆอีกเป็นพันเป็นหมื่นแพล็ตฟอร์ม ดังนั้นเว็บไซต์จึงเปรียบเสมือนศูนย์บัญชาการกลางของการทำการตลาดให้กับธุรกิจของคุณ
สรุปเลย
ทั้งหมดที่ผมเพิ่งบอกคุณไปมันเป็นเพียงแค่ข้อดีส่วนหนึ่งเท่านั้นยังมีอีกหลายๆเหตผลที่คุณต้องพิสูจน์ด้วยตัวของคุณเอง ยังมีอีกหลายสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณ และยังคงมีอีกหลายสิ่งใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นตามกาลเวลา และแน่นอนว่าต้องช่วยธุรกิจของคุณได้ดียิ่งขึ้นด้วย ถ้าวันนี้คุณยังไม่มีเว็บไซต์ แล้วถ้าถึงวันหนึ่งที่ทุกอย่างมันบีบให้คุณต้องมีจนได้ วันนั้นคุณอาจจะตามคู่แข่งไม่ทันแล้วก็ได้นะครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือน
ใครที่กำลังสนใจอยากจะ ทำเว็บไซต์ ดีๆสักเว็บอยู่ ติดต่อพวกเรา FULLFUEL ได้เลยครับ เราไม่ได้ทำเว็บไซต์สวยๆเป็นอย่างเดียว แต่เราทำเว็บไซต์ที่เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของคุณได้ด้วย “คิดจะทำเว็บไซต์ทั้งที ก็ทำให้ดีไปเลย”