จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้หลายๆ อย่างบนโลกของเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค การทำธุรกิจและการทำการตลาด ที่ถือเป็นช่วงที่เปลี่ยนผ่านจากการตลาดแบบออฟไลน์เข้าสู่การตลาดออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ แต่ถึงอย่างนั้นการทำตลาดดิจิทัลในยุคนี้ ก็อาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป การขายอย่างหนักหน่วงอาจจะทำให้ลูกค้าถอยห่าง แต่การยื่นมือเข้าไปช่วยลูกค้าอย่างเต็มใจอาจเป็นกลยุทธ์ที่ใช้งานได้มากกว่าในยุคนี้ ซึ่งในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ การตลาดดิจิทัลยุคใหม่ อย่างเจาะลึก ที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค และนโยบายโฆษณารูปแบบใหม่
จากความเบื่อหน่ายที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน จากสถานการณ์แพร่ระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้ผู้คนหันมาใช้เวลากับโลกออนไลน์มากขึ้นเกือบเท่าตัว โดยมียอดผู้ใช้งานเว็บไซต์เพิ่มขึ้นถึง 19.7% ในช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม แน่นอนว่าสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ คือการใช้อินเทอร์เน็ตในทางที่แตกต่างไปจากเดิม
ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาใช้จ่ายผ่านการช็อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น จากการรายงานของ Google นั้น ผู้คนส่วนใหญ่มักเปลี่ยนรูปแบบการค้นหา จากแฟชั่นชุดใส่ไปเที่ยวมาเป็นแฟชั่นชุดนอนใส่อยู่บ้านแบบเก๋ๆ แทน นอกจากนี้ยอดการค้นหาแอปพลิเคชันที่ให้ความบันเทิงในรูปแบบใหม่ๆ และการเล่นเกมต่างเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในช่วงนี้
นอกจากนี้กลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังนิยมหันไปใช้โซเชียลมีเดีย ในการติดต่อสื่อสารกันมากขึ้นในระหว่างช่วงกักตัว โดยมีผู้ใช้งานในกลุ่ม Gen Z เพิ่มสูงขึ้นถึง 30% ในขณะที่กลุ่ม Gen Y หรือ Millennials ที่เพิ่มขึ้น 29% ปิดท้ายด้วยกลุ่ม Gen X และเหล่า Boomer ที่มีจำนวนผู้ใช้งานในโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นอีก 15% เรียกได้ว่าจากสถิติแล้วมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นในแอปฯ ต่างๆ มากถึง 70% เลยทีเดียว
นอกจากข้อมูลการใช้งานของผู้บริโภคแล้ว สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างที่นักการตลาดรวมถึงเจ้าของแบรนด์ต้องห้ามพลาดเลยก็คือ Google จะทำการแบนโฆษณาทุกรูปแบบที่มีเนื้อหา หรือคำโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับโควิด 19 หรือเชื้อไวรัสโคโรนาประกอบอยู่ เนื่องจากถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่มีความละเอียดอ่อน แน่นอนว่าถ้าหากโพสต์ออกไปนั้นการแสดงผลสำหรับโฆษณาตัวนั้นจะไร้ความหมายโดยทันที ไม่เพียงแค่ Google เท่านั้น แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook ก็ได้ปรับนโยบายในการโฆษณาและมีการตรวจสอบโฆษณาและเปลี่ยนแปลงข้อความโฆษณาใหม่ทั้งหมด
และเพื่อปรับในเรื่องการโฆษณาบนออนไลน์ของคุณให้น่าสนใจมากขึ้น เราจึงขอแนะนำให้วิธีการแสนง่าย ที่ช่วยอัปเดตการโฆษณาให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้นเพียงแค่ 3 ขั้นตอน
- ด้วยการคัดลอกข้อความโฆษณาปัจจุบัน
- เปลี่ยนสำเนาการโฆษณาและรอการตรวจสอบในช่วงที่โฆษณาอันเดิมของเรายังคงแสดงอยู่
- เมื่อคำร้องเสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็สามารถที่จะหยุดโฆษณาตัวเดิมของเราได้โดยทันที แค่นี้ก็จะทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาในการตรวจสอบบัญชีใหม่ทั้งหมด
พูดคุยกับลูกค้าด้วยวิธีการใหม่ๆ
ในช่วงนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่แบรนด์จะหาช่องทางใหม่ๆ ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ถึงความต้องการให้พวกเขาได้มากขึ้น ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผ่านคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย การทำโฆษณาผ่านการสตรีมมิ่งไลฟ์สดบนสื่อหลักของแบรนด์ หรือแม้แต่การส่งข้อความหาลูกค้าโดยตรงเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารกิจกรรมต่าง ๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
ในตอนนี้ธุรกิจหลายแห่งก็ได้เริ่มติดต่อกับลูกค้าของพวกเขา เพื่อนำเสนอวิธีการช่วยเหลือและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคด้วยวิธีการต่างๆ แล้วด้วยเช่นกัน
เริ่มต้นจากสถานที่ยอดนิยมต่างๆ ที่ได้รับการสั่งปิดจากสถานการณ์โควิด 19 ในช่วงก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส สตูดิโอ รวมไปถึงสถาบันสอนพิเศษหลายแห่ง ก็ได้นำเสนอคลาสเรียนและความรู้ให้กับเหล่าสมาชิกแบบฟรีๆ ในขณะเดียวกัน บริการจัดส่งสินค้าก็เริ่มออกโปรโมชันพิเศษ รวมถึงลดค่าคอมมิชชั่นให้กับร้านอาหารเพื่อให้ผู้คนส่วนใหญ่ได้เข้าถึงบริการและร้านอาหารได้อย่างง่ายขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้กลุ่มแบรนด์ต่างๆ ก็ได้คอยส่งข่าวสารอัปเดตเรื่องโปรโมชั่น และข้อมูลการตลาดออกไปให้กับกลุ่มลูกค้าสมาชิกผ่านทางอีเมล และช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นแล้วด้วยเช่นกัน
แต่การใช้วิธีนี้ก็มีข้อที่ควรระวังไว้สักนิด นั่นก็คือการส่งข้อมูลในแต่ละครั้ง ไม่ควรมากเกินไปจนเกินความจำเป็นเพราะอาจทำให้สมาชิกหรือกลุ่มลูกค้าของเรานั้นรู้สึกรำคาญได้มากกว่าที่จะรู้สึกสนใจ
สร้างความแตกต่างให้กับการโฆษณาของคุณ
การโฆษณาถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการทำการตลาด แต่จะทำการตลาดออนไลน์ทั้งทีก็ต้องมีความแตกต่างออกไปสักหน่อยเพื่อให้คุ้มค่ากับเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ลงทุนไป แน่นอนว่าในการทำโฆษณาในแต่ละครั้ง ความรวดเร็วและความคิดสร้างสรรค์ถือเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้แบรนด์กลายเป็นจุดสนใจ แต่ช่องทางการทำโฆษณานั้นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งการทำ CRO, SEO และการโฆษณาบน YouTube ก็ถือเป็นสามช่องทางในการโฆษณาที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
เริ่มต้นจากการทำ CRO หรือ Conversion Rate Optimization ที่ช่วยเพิ่มจำนวนของเว็บไซต์ให้มีจำนวนคนเข้าถึงเพิ่มขึ้น ด้วยวิธีการเริ่มต้นง่ายๆ เพียงแค่ วิเคราะห์ข้อมูลเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าถึงมากที่สุด ดึงดูดความสนใจของเว็บไซต์ด้วยการเพิ่มลูกเล่นของสีปุ่มกด ข้อความตอบรับอัตโนมัติเพื่อตอบโต้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการบนเว็บไซต์ รวมรวมข้อมูลความคิดเห็นจากผู้ใช้งานบนเว็บไซต์งานเพื่อนำมาปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น
SEO เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้น ผ่านหน้าแรกของเว็บไซต์ค้นหายอดนิยมโดยเฉพาะกับ Google ด้วยการใช้คีย์เวิร์ดยอดนิยมที่คนนิยมค้นหาบ่อยๆ ลงไปในบทความ เพื่อเพิ่มโอกาสในการดึงดูดให้ผู้คนค้นหาเว็บไซต์ของเราเจอได้ง่ายขึ้น ซึ่งในส่วนนี้เราเคยเขียนเคล็ดลับในการทำอย่างเจาะลึกไว้ในบทความ 5 เคล็ดลับการทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย และให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การโฆษณาบน YouTube
YouTube ถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงกักตัว โดยมีผู้อัปโหลดวิดีโอเพิ่มสูงขึ้นถึง 57% ในขณะเดียวกันก็มีอัตราการเข้าชมเพิ่มสูงขึ้นกว่า 52% ทั่วโลก อีกทั้งยังมีคอนเทนต์วิดีโอที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร ฟิตเนส การศึกษา และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ดีที่ช่วยโปรโมทแบรนด์ของคุณให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
ค้นหาแรงบันดาลใจจากธุรกิจอื่น ๆ บ้างก็ไม่เสียหาย
บางครั้งการมองวิธีการทำตลาดของแบรนด์อื่นๆ แล้วนำมาปรับใช้บ้างก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอย่างที่คิด ตัวอย่างเช่น การนำเสนอบัตรของขวัญที่สามารถใช้ได้ในระยะยาว ให้สำหรับลูกค้าสมาชิก ซึ่งอาจได้รับแรงบันดาลใจมาจากธุรกิจอื่น ที่มีการส่งผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ที่มีอยู่แล้ว ไปให้ลูกค้าสมาชิกเพื่อเป็นของขวัญแทนใจ หรือการใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการไลฟ์สดผ่านทางแอปพลิเคชันต่างๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศจีน ก่อนจะแพร่ออกไปในแบรนด์ธุรกิจทั่วโลก
เรียกได้ว่าถือเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่ไม่เพียงแค่การตลาดดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค เศรษฐกิจ และธุรกิจในทุกภาคส่วนที่ต้องปรับตัวไปตาม ๆ กัน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนและอย่าลืมเอากลับไปปรับใช้กันสำหรับ การตลาดดิจิทัลยุคใหม่ ที่อาจจะต้องอยู่คู่กับเราไปอีกนานเลยทีเดียว
